วัสดุ PET มีความทนทานและสามารถอยู่ได้นานถึงสูงสุด 5 ปี แต่ประเทศไทยจัดอยู่ โซนภูมิอากาศแบบร้อนชื้น (Tropical Climate) มีอากาศร้อนเป็นอันดับที่ 9 ของโลก

     การติดตั้งบนตัวรถในไทยจึงไม่ควรเกิน 3 ปี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและสภาพการจอดของรถ นอกจากนี้ยังสามารถปกป้องสีเดิมของรถจากรอยขีดข่วนและสภาพอากาศได้อย่างดี

1. Knifeless Tape (เทปสำหรับตัดฟิล์มสี) จะเหมาะกับการตัดบนชิ้นส่วนฟิล์มที่ทับอยู่บนรถ เพื่อป้องกันความเสียหายจากรอยคัตเตอร์บนรถ
2. Freehand Cutting (การตัดนอกตัวรถ) จะใช้เฉพาะกับฟิล์มที่อยู่นอก และไม่สัมผัสกับตัวรถเท่านั้น
3. Protective Tape (เทป PE ป้องกันรอยขีดข่วน) โดยทางร้านจะติดเทปนี้บนชิ้นส่วนที่ติดกับชิ้นที่ติดตั้งเสมอ เพื่อป้องกันรอย ขีดข่วน

  การดูแลรถที่แรพสีเบื้องต้น ควรล้างรถอย่างสม่ำเสมอ ไม่อย่างนั้นคราบฝุ่น ที่ผสมกับคราบน้ำ จะฝั่งแน่นบนเนื้อฟิล์ม และ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ ล้างรถ และ เคลือบสีรถ สำหรับรถที่แรพโดยเฉพาะ 

  กรณีที่รถพึ่งจะแรพเสร็จ ฟิล์มเปลี่ยนสี จะเซ็ตตัวโดยใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ในระหว่างนี้ควรหลีกเลี่ยง

• เครื่องฉีดน้ำ และ เครื่องเป่าลมแรงดันสูง เนื่องจากแรงดันลม และ น้ำ อาจทำให้ขอบฟิล์มเปิดออกมาได้
  
• สเปรย์ขจัดคราบ หรือ น้ำยาที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เนื่องจากน้ำมันที่โดนขอบฟิล์ม จะทำให้การยึดเกาะของฟิล์มลดลง

ลูกค้าสามารถล้างรถด้วยตัวเองได้ โดย ทำความสะอาดฝุ่นด้วยไม้ปัดขนแกะ ใช้น้ำชะโลมรอบคัน และ ใช้ผ้าเช็ดออก โดยหลีกเลี่ยงบริเวณขอบฟิล์ม

  การล้างรถ หลังจากฟิล์มเซ็ตตัวดีแล้ว สามารถล้างได้ปกติเหมือนรถทั่วไป ใช้ปั้มน้ำ และปั้มลมได้ 

   การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ล้างรถ และ เคลือบสีรถเบื้องต้น  ควรดูที่ฉลากบนผลิตภัณฑ์ ดังนี้

• น้ำยาที่มีค่า pH เป็นกลาง (pH 7)  น้ำยาที่มีความสมดุลทางเคมี ไม่เป็นกรดหรือด่าง ซึ่งจะช่วยรักษาฟิล์ม Wrap ได้
• น้ำยาที่ไม่มีสารเคมีรุนแรง (Non-Caustic) น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่ใช้สารกัดกร่อนอย่าง Sodium Hydroxide หรือ Ammonia
  
• น้ำยาที่มีค่า Alkaline ต่ำ (ด่างต่ำ) น้ำยาที่มีค่า Alkaline (ด่าง) ควรเลือกค่าไม่สูงเกินไป เนื่องจากด่างสูงอาจทำลายฟิล์มได้
  

น้ำยาล้างรถสำหรับรถที่ Wrap หาซื้อไม่ยาก สามารถค้นหาว่า น้ำยาเคลือบ หรือ น้ำยาล้างรถ สำหรับรถที่ Wrap (เงา/ด้าน) ได้เลย